โกดังให้เช่า
โกดังให้เช่า เทียบให้ชัดเลือกสัญญาระยะสั้นหรือระยะยาวดี 

โกดังให้เช่า เทียบให้ชัดเลือกสัญญาระยะสั้นหรือระยะยาวดี 

สำหรับผู้ประกอบการคนไหนที่กำลังมีแพลนอยากเช่าโกดังให้เช่าแต่ติดปัญหาตรงที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเช่าสัญญาแบบระยะสั้นหรือระยะยาวดี วันนี้เราจะมาเทียบความแตกต่างของสัญญาทั้งสองประเภทนี้ว่าแบบไหนดี มีข้อดีหรือข้อเสียยังไงและควรเลือกแบบไหนถึงจะตอบโจทย์ 

โกดังให้เช่ามีระยะเวลาการทำสัญญาเท่าไหร่ 

โดยทั่วไปแล้วการเช่าโกดังให้เช่ามีการทำสัญญาแบ่งออกเป็นระยะสั้นและระยะยาว ดังนี้ 

  • สัญญาระยะสั้น อายุสัญญาน้อยกว่า 3 ปี ส่วนใหญ่มีระยะเวลาแค่ 1 หรือ 2 ปี 
  • สัญญาระยะยาว มากกว่า 3 ปี ส่วนใหญ่มีระยะเวลาอยู่ที่ 3 – 6 ปี 

ความแตกต่างของสัญญาระยะสั้นและสัญญาระยะยาว 

1. สัญญาระยะสั้น 

ข้อเสีย 

  • ผู้ให้เช่ามีสิทธิ์ขึ้นค่าเช่า หากผู้ให้เช่าต้องการต่อสัญญาอาจเกิดผลกระทบต่อธุรกิจ 
  • ค่าเช่าแพงกว่าสัญญาระยะยาว เมื่อเทียบค่าเช่าต่อเดือนหรือต่อปี 

ข้อดี 

  • มีความคล่องตัวมากกว่าหากผู้ประกอบการต้องการเปลี่ยนหรือโยกย้ายโกดังเช่าสินค้า กรณีต้องการขยับขยายหรือย้ายตามฐานลูกค้าเก่า 
  • ผู้เช่าและผู้ให้เช่าสามารถทำสัญญาระหว่างกันเองได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนที่กรมที่ดินตามข้อกำหนดของการทำสัญญาโกดังให้เช่าระยะสั้น  

2. สัญญาเช่าระยะยาว 

ข้อเสีย 

  • กรณีที่ผู้ประกอบการต้องการย้ายสถานที่หรือปรับขนาดอาคารใหม่ให้สอดคล้องกับการขยับขยายของธุรกิจอาจไม่สามารถทำได้ทันที เนื่องจากยังคงติดสัญญาเช่าระยะยาวอยู่  
  • ผู้เช่าและผู้ให้เช่าไม่สามารถทำสัญญาระหว่างกันเองได้ จำเป็นต้องจดทะเบียนการเช่าต่อเจ้าหน้าที่กรมที่ดินตามพื้นที่ที่โรงงานโกดังสินค้าดังกล่าวตั้งอยู่ โดยเสียค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสัญญาเช่าร้อยละ 1 ของมูลค่าสัญญา 

ข้อดี 

  • สามารถต่อรองราคาค่าเช่าต่อเดือนหรือต่อปีให้ต่ำกว่าสัญญาระยะสั้นได้ 
  • ไม่ต้องกังวลว่าผู้ให้เช่าจะขึ้นราคา เนื่องจากค่าเช่าเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญาตลอดอายุสัญญา 

เลือกให้เหมาะกับกิจการยังไง 

เนื่องจากสัญญาระยะสั้นและระยะยาวมีข้อดีข้อเสียต่างกันดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกให้เหมาะกับกิจการที่ต่างกัน ดังนี้ 

  • ธุรกิจที่ต้องย้ายตามลูกค้า เหมาะกับสัญญาระยะสั้น 
  • ผู้ประกอบการที่มีแผนขยับขยายพื้นที่ เหมาะกับสัญญาระยะสั้น 
  • ผู้ประกอบการใหม่ เหมาะสำหรับสัญญาระยะสั้น 
  • ผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนอาคารให้เช่าสอดคล้องกับความต้องการ เหมาะกับสัญญาระยะยาว 
  • โรงงานที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่และอุปกรณ์สำนักงาน ยากต่อการเคลื่อนย้าย เหมาะสำหรับสัญญาระยะยาว 

อย่างไรก็ตามการเลือกระยะเวลาสัญญาถือเป็นสิ่งสำคัญต้องเลือกให้ตอบโจทย์ธุรกิจจะได้มั่นใจว่าไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง พร้อมกันนี้ก่อนตัดสินใจทำสัญญาอย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขและข้อตกลงต่าง ๆ อย่างละเอียดรวมถึงสภาพโกดังให้เช่าว่าเป็นยังไง หากมีขาดตกบกพร่องตรงไหนจะได้รีบแก้ไข และหากไม่ตอบโจทย์จะได้มองหาโกดังใหม่ที่ดีกว่า