เลือกความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ให้โดนใจที่สุด
สำหรับผู้ที่ขับขี่ยานยนต์เป็นประจำแล้วนั้น ประกันภัยรถยนต์ สามารถช่วยได้หากคุณประสบอุบัติเหตุ สามารถช่วยจ่ายค่าซ่อมรถของคุณ และยังสามารถครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลหากคุณหรือผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ โดยขอบเขตของความคุ้มครองที่คุณต้องการขึ้นอยู่กับปัจจัยบางประการ รวมถึงมูลค่าของรถและปริมาณความเสี่ยงที่คุณต้องเจอ คุณสามารถเลือกความคุ้มครองประเภทต่าง ๆ เช่น ความรับผิด การชนกัน ไฟไหม้รถ รถหาย และความคุ้มครองอื่น ๆ ที่ครอบคลุม หากประกันชั้น 1 ราคาเบี้ยประกันสูงเกินไป ก็อาจจะเลือกเป็น ประกันชั้น 2 พลัส มาช่วยดูแลแทนก็ได้เช่นกัน
แต่ก่อนจะจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันนั้น สิ่งสำคัญก็คือ ผู้ขับขี่ควรจะเข้าใจก่อนว่า ตนเองเหมาะกับความคุ้มครองในลักษณะไหน เพื่อไม่ให้จ่ายเบี้ยไปอย่างสิ้นเปลืองนั่นเอง แล้วจะต้องทำอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
เคล็ดลับเลือกความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ให้ถูกใจที่สุด
ประเมินความต้องการตัวเอง
ก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อประกันรถยนต์ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าคุณต้องการอะไร คุณควรมีการวางแผนที่ดีและรอบคอบเกี่ยวกับความคุ้มครองที่คุณต้องการ และลักษณะการใช้งานรถยนต์ของคุณ วิธีนี้จะช่วยให้คุณจำกัดตัวเลือกของคุณให้แคบลงและเลือกได้ง่ายขึ้น
เปรียบเทียบความคุ้มครอง
เพราะประกันรถยนต์มีหลายรูปแบบ ถ้าคุณต้องการความคุ้มครองครอบคลุม ในราคาที่ประหยัดลงมาหน่อย ก็อาจจะเลือกเป็นประกันชั้น 2 พลัส หรือจะเลือกแผนอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน จากนั้นเริ่มเปรียบเทียบราคา คุณสามารถใช้เครื่องมือเปรียบเทียบออนไลน์เพื่อรับใบเสนอราคาจากบริษัทประกันต่าง ๆ วิธีนี้จะช่วยให้คุณเห็นข้อเสนอและวงเงินคุ้มครองของแผนประกันแต่ละแบบ
พิจารณาส่วนลด
เมื่อคุณกำลังเปรียบเทียบราคา อย่าลืมมองหาข้อเสนอเกี่ยวกับส่วนลดใด ๆ ที่อาจมี บริษัทประกันหลายแห่งเสนอส่วนลดสำหรับสิ่งต่าง ๆ เช่น ประวัติการขับขี่ที่ดี คุณลักษณะด้านความปลอดภัย และอื่น ๆ หรือสามารถสอบถามกับตัวแทนเกี่ยวกับส่วนลดที่ช่วยคุณประหยัดได้
ดูรายละเอียด
ต้องอ่านรายละเอียด ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจความคุ้มครองและข้อยกเว้นในกรมธรรม์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณพอใจกับข้อกำหนดก่อนตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 2 พลัส หรือประกันแบบใดก็ตาม และในกรณที่มีคำถามใด ก็ให้สอบถามกับทางบริษัทได้เลย โดยคุณสามารถติดต่อผู้ประกันตนโดยตรงหรือสอบถามตัวแทนของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องตอบคำถามเพื่อคลายข้อสงสัยทั้งหมดของคุณให้ได้ ก่อนตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ เพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์นั่นเอง